สวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกๆท่าน ก็มาพบกันอีกวันนะครับ มาติดต่อกัน2วัน ก็ตามเหตุปัจจัยนะครับ ก็ใครที่อยากที่จะรู้ในข้ออรรถข้อธรรมก็คงจะโชคดี กันไป นะครับ สำหรับคนที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่าเป็นบุคคลที่ฉลาด คือรู้จักท่าที่ควรไป น้ำที่ควรดื่ม เปรียบด้วยพวกชาวโคบาลแห่งชาวแคว้นมคธ ที่จะรู้จัก สถานที่จะต้อนฝูงวัวของเขาไปยังสถานที่ ที่ควรจะไปอย่างปลอดภัย ฝูงวัวของเขาสามารถที่จะเดินทางไปยังที่หมายได้อย่างปลอดภัย ในกรณีนี้ ก็เช่นกัน ผู้ที่รู้จักสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อผู้อื่น อย่างถ่องแท้ ก็ย่อมที่จะรู้ว่าอะไรคือประโยชน์ที่เขาพึงจะได้รับ กันไปเมื่อมีโอกาสที่ได้ เข้ามาหา เข้ามาสดับ มาทำการเสพคบ อยู่ในข้ออรรถข้อธรรม ที่พระตถาคตทรงได้เคยบัญญัติบอกสอนเอาไว้ ซึ่งน้อยคนนักที่จะได้รู้ว่า มันมีประโยชน์สูงสุดกับชีวิตของมนุษย์ทั้งหลายทั้งปวง ที่ได้ถือกำเนิดกันขึ้นมาบนโลกนี้ และก็เป็นการยาก แสนยากที่ในหลายร้อยล้านปี ถึงจะได้มีโอกาสเช่นนี้กันสักครั้ง เรื่องนี้ก็ไม่ได้คิดเอาเอง เป็นลักษณะถ้อยคำที่พระบรมศาสดาทรงอุปมาเปรียบเทียบเอาไว้ ในความยากแสนยาก ในแต่ละครั้งที่สัตว์ ทั้งหลายพึงจะได้เข้ามารู้ใน ความจริงอันประเสริฐ ทั้งหลายที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ นั้นนับว่าเป็น โอกาสที่แสนยาก หรือใครที่คิดว่าจะง่ายก็ลองกันดูก็ได้นะครับ สำหรับที่จะคิดว่าความคิดเห็นของตนเองนั้นดี เลิศ กว่าพระบรมศาสดา ก็ลองเอาแค่ข้อธรรมง่ายๆ นี้ไปลองพิจารณากันดูว่า เรื่องที่พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าการที่จะได้เข้ามารู้ มาเห็น ในสิ่งเหล่านี้นั้นเป้นเรื่องที่ง่าย ใครคิดอย่างนั้น ก็ลองเอาไปพิจารณากันดูว่า มันง่ายอย่างไร หรือมันยากตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้อย่างไร????? เรื่องนี้เป็นเรื่องของการพิสูจน์ง่ายๆ ในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติบอกสอนเอาไว้ ก็อยู่ที่ว่าใคร คนนั้น ได้ลองพิสูจน์กันไปด้วยตนเองกันบ้างหรือเปล่า ???? บางคนก็คิดว่าก็นี่ไง ผมเอาสิ่งเหล่านี้มาประกาศอยู่ทุกครั้ง ทุกคราว ก็อยากจะย้อนถามไปว่า จะมีสักกี่คนที่เข้าใจ กันไปได้อย่างแท้จริง หรือมีใครกันบ้างที่นำเอาสิ่งเหล่านี้ไปใคร่ครวญพิจารณากันอย่างจริงๆจังๆ แล้วก็ลองประพฤติปฎิบัติตาม คำตอบก็คงพอทราบกันได้อยู่แล้วนะครับ ว่าส่วนใหญ่นั้นเป็นอย่างไร??? ก็นี่แหละครับ ความที่เป็นเรื่องที่ยาก ดังที่พระพุทธองค์ทรงได้ตรัสไว้ พระองค์จึงทรงบัญญัติไว้ว่า รัตนะคือแก้ว๕ประการอันหาได้ยากในโลกนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง ซึ่ง เรื่องพวกนี้ ถ้าใครโต้แย้งกันได้ ก็คนนั้นแหละ เป็นผู้ที่ต้องยกย่องตนเองได้แล้วว่า เป็นผู้ที่เก่งกว่า ตถาคต เพราะสามารถล้มวาทะ ของพระพุทธองค์ลงไปได้ ด้วยตัวเขาเอง ซึ่งเรื่องนี้ แม้แต่เทพ มาร พรหม ก็ยังไม่มีใครสามารถทำได้ ไม่ว่าในครั้งพุทธกาล จนมาถึงปัจจุบันนี้ ถามว่าตัวผู้บรรยายเอง อยากเจอคนแบบนั้นไหม? ก็ตอบว่า อยากเจอเหมือนกัน เพราะจะได้ สนทนาแลกเปลี่ยน ในความรู้ความเข้าใจกัน ซึ่งแม้ในครั้งพุทธกาลก็มีอยู่ไม่น้อย ที่มีคนที่เขาคิดว่าสามารถล้มวาทะ ของพระพุทธองค์ได้ แล้วก็มีการประชุมนัดหมายกันเพื่อที่จะโต้วาทะกัน เรื่องนี้มีอยู่ในครั้งพุทธกาลที่พระบรมศาสดาทรงตรัสไว้ ในภิกษุสาวกได้ฟัง แต่ผลแห่งการโต้วาทะกัน ก็ไม่เคยมีใครสามารถที่จะล้มวาทะ ของพระบรมศาสดาลงไปได้ มีแต่ต้องยอมและก็ขอเข้ามาอยู่ในธรรมวินัยนี้ เพราะจนด้วยเหตุและผล และยอมรับทั้งกายใจ ว่าพระบรมศาสดาทรงเป็นผุ้ที่มีความรู้ความสามารถ แก้ไขปัญหา และตอบข้อสงสัยทั้งหลายทั้งปวงของเขาไปได้ โดยมีเหตุและผล ประกอบไปพร้อม ในการเป็นที่ยอมรับได้ โดยสุจริตใจ และนี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมสาวกของพระพุทธองค์ที่ มีความเคารพ เลื่อมใสศรัทธาในพร่ะองค์ท่านอย่างไม่หวั่นไหวแล้ว ก็จึงมีความกล้า ที่จะท้าทาย ความเป็นจริงถูกต้อง ไปอย่างที่พระพุทธองค์ทรงกล้าท้าทาย ในความรู้ ความเห็นที่ผิดๆ อันปุถุชนทั่วไปที่หลงเข้าไปยึดถือ กันอยู่แล้ว ก็ทำตนให้เป็นทุกข์ ไปทั้งกายทั้งใจ เรื่องนี้ ก็เคยมีเรื่องเล่าที่พระบรมศาสดาทรงเล่าไว้ ว่า มีพวกเดรัชถีเหล่าอื่น เขาประพฤติปฎบัติ กันในเรื่อง การทรมาน ตนเอง ในทุกรกิริยาต่างๆ พระศาสดาทรงเข้าไปตรัสถามว่า ที่ทำกันอยู่นี้มันทุกข์ใช่ไหม? เข้าก็ตอบว่าทุกข์ แล้วยิ่งทำไปทำไปก็ยิ่งมีความทุกข์เพิ่มขึ้นใช่ไหม? คือยิ่งพยายามก็ยิ่งทุกข์ เขาก็บอกว่าใช่ พระศาสดาก็ตรัสว่าการไปทำให้ทุกข์มันเพิ่มขึ้น ๆ แล้วมันจะลดถอนความทุกข์ลงไปได้อย่างไร? แล้วการที่ยิ่งกระทำไปก็ยิ่งเป็นทุกข์ มันจะเป็นหนทางมาแห่งการพ้นทุกข์ไปได้อย่างไร???? นี่คือข้อเท็จจริงง่ายๆ ที่พระพุทธองค์ทรงถามพวกที่บำเพ็ญเพียรอยุ่ใน วัตรแห่งเดรัชถี ที่กระทำทุกรกิริยา อันเขาหวังว่าเมื่อทำไปแล้วจะเป็นหนทางออกไปพ้นจากกองทุกข์ได้ นี่คือตัวอย่างการกระทำที่พวกที่หลงผิด ๆ กระทำกันอยู่ แล้วก็หาคำตอบให้แก่ตนเองไม่ได้ ว่าการกระทำไปอย่างนั้น มันจะออกจากทุกข์กันไปได้อย่างไร???? แต่ในมรรควิธี ของพระพุทธองค์นั้นล้วนแต่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิง หนทางแห่งการพ้นทุกข์ที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนนั้นพระองค์ทรงตรัสว่า ทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงจะค่อยๆ หมดสิ้นจางคลาย ไปในทุกๆขั้นตอนแห่งการกระทำ ตรงนี้ สิ ถ้าใครได้ลองเอาไปใคร่ครวญพิจารณา แล้วประพฤติปฎิบัติตาม ก็พึงที่จะรู้ด้วยปัญญาของตนเองกันไปได้ว่า ข้อความที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้นี้ เป็นความจริง นี่ก็จึงพอเชื่อได้ว่า หนทางนี้เป็นหนทางที่ถูกต้อง แห่งการที่จะแสวงหนทางออกไปจากกองทุกข์กันได้อย่างแท้จริง เพราะผลมันบังเกิด ขึ้นมาตามลำดับ คือความหมดสิ้นไปแห่งความทุกข์ นั้นมันหมดไปสิ้นไป ทุกๆขั้นตอนแห่งการกระทำ จริงๆ ยกตัวอย่าง แค่การเจริญภาวนา อันมีผลใหญ่ อานิสงส์ใหญ่ และให้ผลเลย ไม่รอ ตรงนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนก็สามารถที่จะพิสูจน์กันไปได้ ง่ายๆ ว่าทำแล้วได้ผลอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า เมื่อทำแล้วรู้แล้ว ก็ค่อย นำข้ออื่นๆมาพิจารณาใคร่ครวญประพฤติปฎิบัติกันไป ตามกำลัง ตามสติปัญญา ความสามารถ ก็พึงที่จะรู้จะทราบกันไปได้เอง ในความเจริญ ก้าวหน้า ในสิ่งที่ตนประพฤติปฎิบัติมา และหลักการเหล่านี้ ไม่ต้องให้ใครที่ไหนมาบอก เรา มารับรองตัวของเรา เราเอง ล้วนแต่รู้อยู่ในตนเอง ทั้งสิ้นว่า ความทุกข์ นั้นมันบรรเทาถ่ายถอนออกไปได้ มากน้อยเพียงใด นั่นก็ขึ้นอยู่ว่าเรามี อินทรีย์ ในการที่จะบรรลุธรรมทั้งหลายทั้งปวงนั้นอยู่มากน้อยเพียงใด ใครที่มีอินทรีย์ อยู่อย่างกล้าแข็ง ก็สามารถที่จะบรรลุในข้ออรรถข้อธรรมทั้งหลายทั้งปวงกันไปได้ รวดเร็ว ว่องไว กว่าบุคคลอื่น ซึ่งพระบรมศาสดาก็ทรงเตือนไว้ว่า อย่าเป็นผู้ที่ยินดีอยู่ในความเนิ่นช้า นั่นก็หมายถึงว่าต้องมีอินทรีย์ที่กล้าแข็งไม่ยิ่งหย่อนไปในความเนิ่นช้า แห่งการที่เป็นไปเพื่อการประพฤติพรหมจรรย์ ต้องขวนขวายไม่นิ่งนอนใจอยู่ เพราะถ้าไปพอใจในความเนิ่นช้า ความทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงก็จะยังคงมีอยู่ ควบคู่กันไป อยู่อย่างนั้น ตราบใดที่เรายังเวียนว่ายกันอยุ่ในกองทุกข์ไม่หลุดพ้นไป เราก็ยังคงมีความทุกข์อยู่ร่ำไป ต่อเมื่อสามารถหลุดออกจากกองทุกข์ทั้งหลายทั้งปวงไปเสียได้ นั่นแหละ จึงจะเป็นการออกไปพ้นจากกองทุกข์อย่างแท้จริง
ฉนั้น เราทั้งหลายเมื่อได้มีโอกาสอันดีอย่างนี้ที่ได้เข้ามารู้ในสิ่งที่พระบรมศาสดาทรงบัญญัติบอกสอนเอาไว้ ก็อย่าละทิ้งโอกาสอันดีเหล่านี้กันไปเสีย หยิบฉวยโอกาสทองเหล่านี้กันไปเสียให้ได้ เพราะ ไม่มีสิ่งใด หรือจะมีอะไรที่สำคัญไปกว่าสิ่งเหล่านี้กันอีกแล้ว ในชีวิตของมนุษย์คนหนึ่ง จะมีอะไรดีไปกว่าเอาชนะได้ในความ เกิด แก่ เจ็บตาย ตรงนี้ไม่วิชาที่ไม่มีใครสอน และไม่มีใครรู้ว่า การเอาชนะสิ่งเหล่านี้ได้ มันเป้นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด ของเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ที่บังเกิดกันขึ้นมาในโลก นี้
วันนี้ก็พอสมควรแก่เวลา ขออนุโมทนาสาธุ
เบอร์โทรติดต่อ 094 967 9813 ไลน์ไอดี poundph
โอนเงินชำระค่าสินค้ามาที่ ธ. กรุงเทพ จำกัด สาขาสรงประภา ดอนเมือง กทม.
เลขที่บัญชี 059 038 9813 ชื่อบัญชี Papon Phu.
มีของใช้งานคุณภาพดี ลองพิจารณากันครับ
1.กรรไกรตัดสังกะสี Eclipse ของเก่าเก็บสภาพดี มี 1 อัน คุณ horse สถานะรับทราบการจองเเล้ว
2.ประแจเลื่อน Bahco 12” ของเก่าสภาพดีมี 1 ตัว คุณ horse สถานะรับทราบการจองเเล้ว
3.จับแป๊บ Bahco 1.1/2 “ ของเก่าเก็บ เหมือนของใหม่ มี 1 ตัว คุณ KUBOTA49 สถานะโอนเงินเเล้ว จัดส่งของไปให้เเล้ว PD 2376 4109 5 TH
4.ตัวดูดลูกปืน Force 3 ขา ขนาด 3นิ้วของเกือบใหม่ มี2 ชุด คุณ Wsuchol 1 ชุดสถานะโอนเงินเเล้ว จัดส่งของให้วันนี้(11 ม.ค.64) Ykuwku1 ชุด สถานะรับทราบการจองเเล้ว
5.
กฏกติกามารยาท ก็ตามประเพณีนิยม จองไว้อย่าเกิน2 วันเป็นอย่างช้า โอนเงินเข้ามาแล้วก็แจ้งที่อยุ่จัดส่งของให้รับทราบกันด้วย โอนไวส่งไว ใครอยากส่งด่วนก็บอกกันได้ ตกลงค่าจัดส่งกันต่างหาก นะครับ ถ้าไม่รีบมากนักก็จะจัดส่งไปตามความสะดวกของคนขาย
สุดท้ายก็ขอบพระคุณเพื่อนสมาชิกทุกๆท่านที่แวะมาเยี่ยมชมทักทายอุดหนุนกันด้วยดีเสมอมาก็ขอให้มีความสุขความเจริญกันทุกๆท่านนะครับสวัสดีครับ